หน้าแรก -> บุญกุศลที่เป็นของกลาง

บุญกุศลที่เป็นของกลาง


เมื่อเราตั้งใจทำ ตั้งใจอาราธนา ตั้งอธิษฐาน ในสิ่งที่เราทำ ในทางโลก ทรัพย์สิน เงินทอง ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ถ้ายกให้ใคร ถ้าแบ่งให้ใคร ก็จะทำให้ลดน้อยลง แบ่งมากคน คนที่ได้รับ ก็จะได้น้อยลง อย่างมีเงิน 100 บาท ยกให้ 1 คน ก็ได้ 100 บาท ยกให้ 2 คน ก็ได้คนละ 50 บาท อย่างนี้เป็นต้น แต่บุญกุศล ที่เราทำ แล้วเราโมทนา ให้บุคคลอื่น ทั้งที่มีชีวิตอยู่ ที่ละโลกนี้ไปแล้ว ย่อมมีผล ให้ผู้ที่เรานึกถึง ผู้ที่เราอุทิศให้ ย่อมได้รับแน่นอน จะได้มาก จะได้เร็ว จะได้ช้า สุดแล้วแต่ เหตุแห่งปัจจัย เหตุแห่งกรรม ทั้งกรรมดี ทั้งกรรมชั่ว ที่เจ้าของกรรม กำลังได้เสวยอยู่ กำลังได้ทนทุกข์อยู่ เป็นเรื่องละเอียด สุดที่เรา ที่เป็นผู้มีกิเลส จะรู้ได้หมด ที่นำมาบอกกล่าว ก็ฟังท่านมา ก็อ่านจากที่ท่านเขียนมา แล้วคิดเอาเองบ้าง พิจารณาเอาเองบ้าง แต่ด้วยปัญญาน้อย แต่ก็เชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ เชื่อมั่นในคำอาราธนา เชื่อมั่นในคำอธิษฐาน ว่าต้องสำเร็จได้ ว่าต้องเป็นจริง ได้อย่างแน่นอน อย่าง 100 เปอร์เซ็นต์

เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ที่ได้อ่าน ผู้ที่ได้เห็น ผู้ที่ได้พิจารณา ทั้งคิดปรุงแต่ง ว่าสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่พวกเราทำ ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ทำด้วยความเคารพ เลื่อมใส ศรัทธา เชื่อมันในพระรัตนตรัย เชื่อมั่นในคุณแห่งพระรัตนตรัย ว่าเป็นที่สูงสุดยอดจริง ว่าเป็นอัปปมาโณจริง ว่าเป็นอย่างไร้ที่ติจริง เหนือสิ่งอื่นใดทั้งปวง ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือน หรือเท่าเทียมได้จริง

ทานเป็นเรื่องขอการให้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวเรา เกี่ยวข้องกับตัวเขา เกี่ยวกับบุคคลอื่น เกี่ยวข้องกับสัตว์อื่น เกี่ยวข้องกับสิ่งของ เกี่ยวข้องทั้งโลกนี้ เกี่ยวข้องทั้งโลกหน้า เกี่ยวข้องทั้ง 31 ภูมิ เกี่ยวข้องทั้งทุก ๆ วัฎสงสาร มิรู้จบ แต่ถ้าทำชั่ว ไม่รักษาศีล 5 ก็เกี่ยวข้องเช่นเดียวกัน แต่ผลที่ได้รับย่อมต่างกัน ทุกคนก็รู้ ทุกคนก็ทราบ คงไม่ต้องอธิบาย

เมื่อทาน เกี่ยวข้องกันทั้งหมด ทำไมเราจะทำทาน ทำไมเราจะให้ทาน ที่ใช้ปัจจัย ที่หามาด้วยความบริสุทธิ์ ด้วยความเหนื่อยยาก ด้วยความขยัน ด้วยการเก็บเล็กเก็บน้อย ต้องใช้เวลาเกือบ 20 ปี จึงจะพอมี เพื่อทำสิ่งที่ตั้งใจ ทำอย่างต่อเนื่อง ก้าวไปที่ละขั้น เพื่อให้สิ่งที่ทำ ให้เป็นที่สุด ให้ดีที่สุด เท่าที่เราจะทำได้ และจะไม่หวนกลับ เพื่อไปทำซ้ำ เพราะยังไง ก็ไม่ดีกว่าเดิม จริงแท้แน่นอน เพราะได้ทุ่มเท ให้ไปหมดแล้ว ถามว่าแล้วรู้ได้ไง ก็ตอบว่าก็รู้ที่ใจ แม้ใครจะเชื่อ หรือไม่ก็ตาม นานาจิตตัง แค่นี้ก็คงเข้าใจ เมื่อสิ่งที่ทำ ให้เป็นของกลาง ให้เป็นของส่วนรวม ให้เป็นของโลก ให้เป็นของจักรวาล ให้เป็นของอนันตจักรวาล ให้เป็นของมหาอนันตจักรวาล ให้เป็นของทุก ๆ 31 ภูมิ ให้เป็นของทุก ๆ วัฎสงสาร และ ฯลฯ ทั้งหมดจริง

ส่วนใครจะได้รับ ส่วนใครจะไม่ได้รับ เราก็มิอาจจะรู้ รู้อยู่อย่างเดียว ว่าเราไม่ได้แบกไว้ ที่เราไม่มี ที่เราว่าง ที่เราสบาย เพราะเรายกให้หมดแล้ว

ขอให้ทำใจให้เป็นกลาง ทำใจให้สบาย ทำใจให้เป็นกุศล ทำใจให้เหมือนอย่างที่เคยทำ ที่เคยทำบุญ ทำแล้วสบายใจ ทำแล้วแผ่อุทิศให้ ทำแล้วโมทนาบุญ เดินไปทางไหน เจอใครก็ยกบุญที่ทำให้เค้า ถ้าพูดอย่างนี้ ทุกคนก็เคยทำ ทุกคนก็เข้าใจ

บุญที่ท่านทำ บุญที่เรา บุญที่ใครต่อใครทำ แล้วโมทนาให้กัน แล้วอนุโมทนากัน นั่นแหละ มาครั้งนี้ ขอบุญกุศล ที่ทุก ๆ ท่าน ที่พวกเราทั้งหมดทำ ทำกันมา ตั้งแต่ชาติแรก จนมาถึงชาติปัจจุบันนี้ ณ เวลานี้ ขอจงรวมเป็นพลังมังสามัคคี เป็นพลังแห่งคุณงามความดี ให้ประชาชน ประเทศชาติ โลกมนุษย์ โลกต่างดาว จักรวาลสากลพิภพ ทุก ๆ 31 ภูมิ ทุก ๆ วัฎสงสาร ในที่ที่มีการสมมติ และในที่ที่การสมมติไปไม่ถึง ขอทุก ๆ พระองค์ ขอทุก ๆ ท่าน โปรดได้ร่วมเป็นเจ้าของ ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพใหญ่ ได้ร่วมโมทนาในบุญใหญ่ จากต้นบุญกุศลอานิสงส์บารมีใหญ่แห่งเหล่าผู้สร้างทั้งหมด เหมือนได้ร่วมสร้างเอง ถวายเอง ประเคนเองจริง จึงได้รับในเหล่าผลบุญกุศลอานิสงส์บารมีใหญ่อย่าง 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ขอพระยายมราชและแม่พระธรณี โปรดจงโมทนาส่วนกุศลนี้ แต่ขอได้โปรดจงเป็นสักขีพยาน ขอน้อมกราบถวายบูชาแด่คุณพระศรีรัตนตรัยที่สูงสุดยอดจริง เป็นอัปปมาโณจริง อย่างไร้ที่ติจริง ในตลอดทั่วทั้ง ๓ กาลจริงทั้งหมด ด้วยเทอญ


พระสมเด็จ ญสส. สัมมาสัมพุทโธพุทธโคดม (สมเด็จพระสัมมาสัมพุทโธพุทธโคดม) ด้านหน้าพระสมเด็จ ญสส. บรมพุทโธโพธิสัตว์ (สมเด็จพระบรมพุทโธโพธิสัตว์) ด้านหน้า

ภาพถ่าย : ด้ายหน้า พระเครื่องวัตถุมงคล พระสมเด็จ ญสส. “สัมมาสัมพุทโธพุทธโคดม” (“สมเด็จพระสัมมาสัมพุทโธพุทธโคดม”) และพระเครื่องวัตถุมงคล พระสมเด็จ ญสส. “บรมพุทโธโพธิสัตว์” (“สมเด็จพระบรมพุทโธโพธิสัตว์”

สารบัญ